เซนเซอร์ของรถยนต์พัฒนาไปขนาดไหนกันนะ

เซ็นเซอร์รถยนต์

ว่ากันด้วยเรืองของความอัจฉริยะของการตรวจจับและการป้องกันต่างๆ อย่าง “Sensor” รอบตัวรถยนต์นั้น เรียกได้ว่าถูกพัฒนาไปอีกขั้นเลยก็ว่าได้ครับ วันนี้เราเลยอยากจะมากล่าวเกี่ยวกับ “เซนเซอร์ของรถยนต์พัฒนาไปขนาดไหนกันนะ” พร้อมกับแนะนำที่มาที่ไปของการเกิด Sensor เหล่านี้กันสักหน่อยครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลานั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!

เซนเซอร์ (Sensor) คืออะไร?

เซนเซอร์ (Sensor) คือ อุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวตรวจจับปริมาณทางฟิสิกส์ โดยอาศัยหลักการทำงานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของเซนเซอร์ สามารถกำเนิดสัญญาณที่มีความสัมพันธ์กับปริมาณของสิ่งที่ต้องการตรวจจับได้ โดยการแปลงสัญญาณทางด้านอินพุตซึ่งเป็นคุณสมบัติทางฟิสิกส์ให้เป็นสัญญาณทางด้านเอาต์พุตซึ่งเป็นคุณสมบัติทางไฟฟ้า เพื่อป้อนให้กับระบบหรือกระบวนการ แล้วนำไปประมวลผลในขั้นตอนต่อไป อาจกล่าวได้ว่าเซนเซอร์ คือ ทรานสดิวเซอร์ (Transducer) ประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานรูปแบบหนึ่งให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ในบางครั้งจึงมีการเรียกเซนเซอร์ว่าทรานสดิวเซอร์หรือเรียกทรานสดิวเซอร์ว่าเซนเซอร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และลักษณะการประยุกต์ใช้งานที่ต้องการวัด

ระบบเซ็นเซอร์รถยนต์เป็นอย่างไร ติดตั้งแบบไหน?

ระบบเซ็นเซอร์รถยนต์ ส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้ทั้งหน้ารถยนต์และหลังรถยนต์ ทั้งด้านซ้ายด้านขวา เพื่อความสะดวกในการถอยจอดด้านหน้าและถอยจอดด้านหลังโดยระบบเซ็นเซอร์รถยนต์สามารถตรวจจับวัตถุที่อยู่ต่ำกว่ากันชนรถ เช่น ขอบฟุตบาท เด็กที่กำลังเล่น หรือสัตว์เลี้ยง และเมื่อตรวจจับได้ถึงวัตถุ หรือสิ่งของก็จะส่งเสียงเตือน

ฟังก์ชั่นเซนเซอร์เหล่านี้จะช่วยทำให้การถอยจอดรถเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ระบบเซ็นเซอร์กะระยะรถยนต์นั้นจะปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิค เมื่อคลื่นนี้ได้กระทบกับวัตถุใดก็ตาม คลื่นจะสะท้อนกลับมายังตัวเซ็นเซอร์ ตัวเซ็นเซอร์ก็จะส่งสัญญาณไปที่ตัวเสียงเตือนให้ทำงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการชนกับวัตถุสิ่งกีดขวางที่เราอาจมองไม่เห็นขณะอยู่ในรถยนต์

สิ่งที่ควรทำในขณะล้างรถเพื่อป้องกัน Sensor พัง

  • ห้ามฉีดน้ำอัดไปที่เซ็นเซอร์หรือกล้องโดยตรง หากจะทำการฉีดล้างควรจะต้องให้หัวฉีดอยู่ห่างจากกล้องหรือเซ็นเซอร์ 30 ซม. หรือ ประมาณ 12 นิ้ว และอย่าฉีดแช่นานเกินไป
  • ใช้ผ้าหมาดเช็ดทำความสะอาดส่วนเซ็นเซอร์หรือ กล้อง สามารถใช้ผ้าหมาดๆ ชุบด้วยน้ำยาเช็ดกระจกเล็กน้อย เช็ดทำความสะอาดเซ็นเซอร์หรือกล้อง รวมถึงระบบต่างๆเช่นระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วแบบ Active เป็นต้น
  • ไม่ควรใช้แรงกดมากจนเกินไป ควรระมัดระวังในการใช้แรงกดในการเช็ดทำความสะอาดส่วนกล้องและเซ็นเซอร์ หากใช้แรงกดมากเกินไปอาจทำให้ส่วนประกอบที่มีความบอบบางชำรุดได้
  • เลือกใช้น้ำยาล้างรถที่เหมาะสม เมื่อทำการล้างรถให้รีบทำความสะอาด อย่าทิ้งให้คราบน้ำยาแห้งเพื่อป้องกันสีของตัวถังและเซนเซอร์ของรถไปพร้อมๆ กัน

2 พฤติกรรมที่จะทำให้รถคุณเสื่อมสภาพไว

  • ละเลยการเช็คไฟเครื่องยนต์ ไฟสัญญาณเตือนเหล่านี้มีความสำคัญนะ เพราะเป็นการเตือนว่าสิ่งเหล่านั้นเริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เมื่อคุณพบสัญญาณแล้วควรหาโอกาสทำการตรวจเช็คโดยเร็วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานเพราะบางทีอาจมีสาเหตุเพียงแค่น้ำมันเครื่องน้อยกว่าปกติก็ได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จนน้ำมันเครื่องแห้งก็อาจเป็นเหตุให้เครื่องยนต์พังเสียหายใช้การไม่ได้ต้องยกเครื่องใหม่ก็เป็นได้ เข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย การส่งซ่อมกรณีนี้ใช้เวลานานมากเสียด้วย ไม่คุ้มกันเลยกับการยอมเสียเวลานำไปตรวจเช็คเสียแต่แรก
  • ชอบขับรถกระชาก เป็นพฤติกรรมการขับรถที่ออกตัวเร็ว เบรกเร็ว หรือขับด้วยอารมณ์หงุดหงิด ผลที่เกิดขึ้นจะทำให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานหนักเนื่องจากมีการเปลี่ยนความเร็วในการขับแบบกะทันหัน นอกจากนั้นยังทำให้เปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เซนเซอร์ของรถยนต์พัฒนาไปขนาดไหนกันนะ” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้กัน คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ